“มาดามแป้ง” นายก ส.กีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย  กล่าวเปิดฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 50

 “นกน้ำเพลินตา สมิหลาเพลินใจ เมืองใหญ่สองทะเล เสน่ห์สะพานป๋า ศูนย์การค้าแดนใต้”  จากคำขวัญประจำจังหวัด ซึ่งบ่งบอกถึงเอกลักษณ์และอัตลักษณ์สำคัญของที่แห่งนี้ ทำให้ แป้ง ในนามนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งเป็นตัวแทนของสภากรรมการ นักกีฬาและผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย ทุกคน เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาเยือนดินแดนเมืองท่าที่มีประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ และเป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญของชาวภาคใต้ รวมถึงศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยว สังคม วัฒนธรรม รวมถึงด้านกีฬา ที่มีการส่งเสริม สนับสนุน การพัฒนาวงการฟุตบอลทั้งในระดับทีมชาติไทย ระดับลีกอาชีพมาอย่างยาวนาน

การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ เป็นรายการที่สำคัญมากของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เพราะเป็นถ้วยที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานไว้ให้กับวงการฟุตบอลไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 จนมาถึงรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว อีกทั้งยังนับเป็นปีมหามงคล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ หรือ 72 พรรษา โดยฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ยังถือเป็นฟุตบอลถ้วยระดับนานาชาติ ที่เก่าแก่ที่สุดอันดับ 2 ในทวีปเอเชีย อีกด้วย

สำหรับ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มีนโยบายสร้างกระแสนิยมฟุตบอลไทยให้เกิดขึ้นทั่วประเทศ เพื่อให้แฟนบอลได้มีส่วนร่วม และใกล้ชิดกับการแข่งขันฟุตบอลนานาชาติ โดยถือเป็นครั้งที่ 9 ที่คิงส์คัพออกมาจัดการแข่งขันที่ต่างจังหวัด โดย “จังหวัดสงขลา” ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการคัดเลือกของสมาคมฯ ที่แสดงความพร้อมรอบด้านตามมาตรฐานของเอเอฟซี ทั้งสนามติณสูลานนท์ ,สนามซ้อมทั้ง 3 สนาม และที่พักสำหรับ 4 ประเทศ รวมถึงยังมี VAR เป็นครั้งแรกของการแข่งขัน ที่สำคัญ ชาวใต้ยังได้ชื่อว่าเป็น ผู้ที่มีความคลั่งไคล้ หลงใหลในฟุตบอลมากที่สุด จากสถิติยอดแฟนบอลสูงสุดตลอดกาลที่เคยเกิดขึ้นที่นี่ ด้วยจำนวน 36,715 คน ในฟุตบอลดิวิชั่น 1 ของปี พ.ศ. 2554

แม้ว่าทีมชาติไทยจะยังไม่เคยคว้าถ้วยอันทรงเกียรตินี้ ในการออกมาเล่นต่างจังหวัด แต่ “แป้ง” เชื่อมั่นว่าทุกอย่างย่อมมีครั้งแรก และครั้งแรกจะเกิดขึ้นที่สนามติณสูลานนท์แห่งนี้ ภายใต้การวางแผนงาน ของ โค้ชมาซาทะดะ อิชิอิ ความพร้อมของนักกีฬาทีมชาติไทย ที่ผสมผสานนักเตะรุ่นใหญ่มากประสบการณ์ และนักเตะรุ่นใหม่วัยความหวัง ที่พร้อมร่วมกันทำงานหนักในสนาม และเรายังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากความรักของชาวสงขลาตั้งแต่การมาเก็บตัววันแรก

สุดท้ายนี้ พี่น้องชาวสงขลาคงรอคอยแมทช์ในค่ำคืนนี้ ขอให้ทุกเสียงเชียร์ทั้ง 25,000 คน ตลอด 90 นาที เป็นพลังสำคัญให้นักกีฬาทีมชาติไทยเราคว้าชัยในค่ำคืนนี้ และเข้าไปคว้าถ้วยแชมป์คิงส์คัพ ครั้งที่ 50 ไว้ที่ประเทศไทยให้ได้ค่ะ