เทคโนโลยี ทัชแพด และ เทคโนโลยีด้านกราฟิก Vionardo จับช็อตเด็ดอย่างแม่นยำขณะที่ ลีออน มาร์ชองด์ นักว่ายน้ำชาวฝรั่งเศส คว้าเหรียญทองแรกให้กับเจ้าภาพและทุบสถิติโอลิมปิกใหม่ในการแข่งขันประเภทเดี่ยวผสม 400 เมตร อย่างน่าสนุกตื่นเต้น
#ลีออน มาร์ชองด์ วัย 22 ปี เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยเวลา 4 นาที 02.95 วินาที ณ ปารีส ลา เดอฟองส์ แอรีน่า เมื่อวันที่ 28 กรกฏาคม 2567 พร้อมทุบสถิติโอลิมปิกของ ไมเคิล เฟลป์ส ที่ทำเวลาไว้ 4 นาที 03.84 วินาที เมื่อปี 2008 ซึ่งนั่นเกิดจากความแม่นยำในการจับเวลาโดย โอเมก้า แบรนด์นาฬิกาคุณภาพระดับโลกผู้อยู่เบื้องหลังทุกสถิติโอลิมปิกที่น่าจดจำ
โดยการแข่งขันว่ายน้ำในกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ ทางโอเมก้า ได้ใช้เทคโนโลยี ทัชแพด (TouchPad) ซึ่งถูกติดตั้งไว้ทั้งสองด้านของสระเป็นตัว “หยุดเวลา” ด้วยการใส่แรงกดระหว่าง 1.5 ถึง 2.5 กิโลกรัม (3.3 ถึง 5.5 ปอนด์) และนี่คือวิธีการที่แม่นยำที่สุดในการวัดเวลา ในกีฬาที่ท้าทายเช่นนี้ และได้เปิดตัว ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวครั้งแรก ในมหกรรมมหกรรมกีฬาโอลิมปิกในปี 1968 และ การแข่งขันTokyo 2020 เป็นต้นมา ทัชแพดยังได้รับการใช้งานในกีฬาปีนผาจำลองประเภทความเร็วอีกด้วย
พร้อมกันนี้ยังได้ใช้เทคโนโลยีด้านกราฟิก วีโอนาร์โด (Vionardo) ซึ่งแสดงกราฟิกความละเอียดสูงในระดับ 4K UHD (ความคมชัดสูงมากที่สุด) มอบกราฟิกที่ชัดเจนแบบเรียลไทม์ และสามารถนำเสนอเนื้อหากราฟิกสำหรับโทรทัศน์ในภาษาต่างๆ ตามความต้องการของผู้ถือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดในแต่ละภูมิภาค ด้วยอินเทอร์เฟซผู้ใช้งานแบบอินเตอร์แอคทีฟ เทคโนโลยีนี้จะสามารถใช้งานได้โดยเจ้าหน้าที่ถ่ายทอดสดของโอลิมปิก หรือแม้กระทั่งอาสาสมัคร โดยเทคโนโลยีเดียวกันยังสามารถให้บริการกราฟิกสำหรับโทรทัศน์ได้จากระยะไกล นอกสนามแข่งโอลิมปิก ช่วยลดการใช้โครงสร้างพื้นฐานในสถานที่จัดการแข่งขันและส่งเสริมมาตรการสร้างความยั่งยืน
#ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของ OMEGA นับเป็นครั้งที่ 31 ตั้งแต่ปี 1932 ที่ได้ทำหน้าที่ผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก และ Paris 2024 จะเป็นการตอกย้ำถึงก้าวอันยิ่งใหญ่ต่อไปของ #OMEGA ในด้านการบอกเวลาสมัยใหม่ ด้วยการยกระดับมาตรฐานด้านความเที่ยงตรงและประสิทธิภาพ โดยใช้อุปกรณ์อันน่าเชื่อถือชนิดเดียวกับในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก รวมถึงเทคโนโลยีอีกหลายชนิดที่ถูกปรับแต่งเป็นพิเศษเพื่อแจ้งผลผู้ชนะเหรียญทอง,เหรียญเงิน และเหรียญทองแดงตลอดการแข่งขันนี้